วิธีแก้ไขปัญหาในการโทร

• สถานะการโทร
• แสดงแต่สถานะกำลังโทรหรือกำลังเชื่อมต่อ
• การโทรแสดงสถานะว่าไม่มีการตอบรับและวางสาย
• ปรับปรุงคุณภาพการโทร
• ใช้อินเทอร์เน็ตน้อยลงในการโทร
• ไม่ได้ยินเสียงผู้ติดต่อ
• การแจ้งเตือนสายที่ไม่ได้รับ
• มองไม่เห็นผู้ติดต่อ
• วิดีโอหมุนไม่ถูกทิศทาง
• อนุญาตสิทธิ์บนเดสก์ท็อป
• ตรวจสอบการตั้งค่าของระบบปฏิบัติการบนเดสก์ท็อป

---

สถานะการโทร

หน้าจอการโทร Signal จะแสดงสถานะ 

• กำลังโทรหรือกำลังเชื่อมต่อ - ระหว่างรอให้สายเชื่อมต่อ
• กำลังเรียกสาย - เมื่อโทรศัพท์ของผู้ติดต่อกำลังออนไลน์และส่งเสียงเรียกเข้า
• ตัวจับเวลา - หลังจากผู้ติดต่อรับสายของคุณ

ทำไมหน้าจอการโทรของฉันแสดงแต่สถานะว่ากำลังโทรหรือกำลังเชื่อมต่อ

• การโทรของคุณจะเริ่มเรียกสายได้ก็ต่อเมื่ออุปกรณ์ของทั้งคุณและผู้ติดต่อมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เป็นไปได้ว่าผู้ติดต่อของคุณไม่ได้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอยู่ในระหว่างที่คุณโทรหาหรือผู้ติดต่ออาจบล็อกคุณ ตรวจสอบโดย
  1. ดูว่าข้อความของคุณส่งไปถึงผู้ติดต่อหรือไม่
  2. ดูว่าคุณรับข้อความจากผู้ติดต่อคนนี้ได้หรือไม่ 
• การตั้งค่าวันและเวลาตามเขตเวลาบนโทรศัพท์เครื่องใดเครื่องหนึ่งไม่ถูกต้อง

ทำไมหน้าจอการโทรแสดงสถานะว่าไม่มีการตอบรับและวางสายเองเกือบทันที

อุปกรณ์ของคุณไม่ได้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต โปรดตรวจสอบการเชื่อมต่อ Wi-Fi หรืออินเทอร์เน็ตมือถือของคุณ

ฉันควรทำอย่างไรหากเสียงเรียกเข้าเบาเกินไป

• สำหรับ iOS หากระดับเสียงเบากว่าปกติในระหว่างที่คุณกำลังมองดูหน้าจออุปกรณ์ ให้ปิดใช้งานฟีเจอร์การตั้งใจมอง

ฉันจะปรับปรุงคุณภาพของการโทรได้อย่างไร

• อัปเดตเป็น Signal เวอร์ชันล่าสุด
• เปิดใช้งานฟังก์ชันใช้ข้อมูลน้อยลงเมื่อโทรผ่าน Wi-Fi และอินเทอร์เน็ตมือถือ โดยไปที่การตั้งค่า Signal  > ข้อมูลและที่เก็บ (สำหรับ Android) หรือการใช้ข้อมูล (สำหรับ iOS) > แตะที่ใช้ข้อมูลน้อยลง > เลือก Wi-Fi และอินเทอร์เน็ตมือถือ

ฉันจะใช้อินเทอร์เน็ตในการโทรน้อยลงได้อย่างไร

• ไปที่การตั้งค่า Signal  > ข้อมูลและที่เก็บ (สำหรับ Android) หรือการใช้ข้อมูล (สำหรับ iOS) > แตะที่ใช้ข้อมูลน้อยลง > เลือก Wi-Fi และอินเทอร์เน็ตมือถือ

ฉันควรทำอย่างไรหากไม่ได้ยินเสียงของผู้ติดต่อ

• อัปเดตเป็น Signal เวอร์ชันล่าสุด
• เพิ่มระดับเสียงบนโทรศัพท์ของคุณ
• ตรวจสอบว่าคุณอนุญาตคำขอสิทธิ์สำหรับไมโครโฟนแล้ว
• ตรวจสอบว่าไฟร์วอลล์หรือแอปบุคคลที่สามของคุณกำลังจำกัดหรือปิดกั้นการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของ Signal หรือไม่
• เปลี่ยนตัวเลือกการใช้งานของลำโพง เช่น ลองเปิดหรือปิดลำโพงแล้วสลับไปใช้ลำโพงธรรมดาของอุปกรณ์

ทำไมฉันเห็นว่ามีสายที่ไม่ได้รับ

• อุปกรณ์ของคุณอาจออฟไลน์อยู่ในระหว่างที่มีสายโทรเข้า
• ปิดใช้งานโหมดห้ามรบกวน
• บน iOS ให้ปิดใช้งานโหมดพลังงานต่ำ โดยไปที่การตั้งค่า iPhone > แบตเตอรี่ > ปิดใช้งานโหมดพลังงานต่ำ
• ตรวจสอบว่าคุณและผู้ติดต่อทั้งคู่ใช้ Signal เวอร์ชันล่าสุด
• ตรวจสอบว่าการตั้งค่าวันและเวลาบนโทรศัพท์นั้นถูกต้องตามเขตเวลาของคุณ
• ตรวจสอบว่าคุณหรือผู้ติดต่อมีไฟร์วอลล์หรือแอปบุคคลที่สามที่กำลังจำกัดหรือปิดกั้นการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของ Signal หรือไม่
• ตรวจสอบว่าคุณและผู้ติดต่ออนุญาตคำขอสิทธิ์ครบทุกรายการแล้ว
• สลับไปใช้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอีกรูปแบบ เช่น สลับจากอินเทอร์เน็ตมือถือไปใช้ Wi-Fi
• สำหรับอุปกรณ์ iOS ในพื้นที่ที่ใช้ CallKit และในระหว่างที่หน้าจอล็อก สายวิดีโอคอลจะแสดงการแจ้งเตือนพร้อมการสั่นแต่จะไม่ส่งเสียงเรียกเข้า เปิดใช้การแจ้งเตือนบนหน้าจอล็อกโดยไปที่  การตั้งค่า iPhone > Signal > การแจ้งเตือน > ใต้หัวข้อแจ้งเตือน ให้เลือกหน้าจอล็อก 

ฉันจะมองเห็นผู้ติดต่อทางวิดีโอคอลได้อย่างไร วิดีโอของผู้ติดต่อฉันอยู่ตรงไหน

คุณสามารถควบคุมได้เต็มที่ว่าจะให้ใครมองเห็นคุณบ้าง ผู้ติดต่อของคุณก็มีตัวเลือกนี้เช่นเดียวกัน

• สำหรับการเปิดวิดีโอของคุณ ให้แตะที่ไอคอนวิดีโอ  เพื่อเปิดใช้งานวิดีโอจากฝั่งคุณเท่านั้น คุณอาจต้องตรวจสอบว่ามีการอนุญาตคำขอสิทธิ์ครบทุกรายการบนอุปกรณ์ของคุณแล้ว 
• สำหรับการมองเห็นวิดีโอของผู้ติดต่อ คนคนนั้นจะต้องแตะที่ไอคอนวิดีโอ  จากฝั่งเขา ผู้ติดต่ออาจต้องตรวจสอบว่ามีการอนุญาตคำขอสิทธิ์ครบทุกรายการบนอุปกรณ์ของเขาแล้ว 

ทำไมวิดีโอของผู้ติดต่อฉันหมุนไปอีกทางและไม่แสดงแบบเต็มหน้าจอ

• ขอให้ผู้ติดต่อตรวจสอบว่าล็อกการหมุนหน้าจอบนโทรศัพท์ไว้หรือไม่

ฉันจะอนุญาตคำขอสิทธิ์การโทรบนเดสก์ท็อปได้อย่างไร

1. อนุญาตสิทธิ์ในแอป

   • เปิด Signal บนเดสก์ท็อปแล้วแตะที่โปรไฟล์ของคุณ  >  ค่ากำหนด แล้วอนุญาตให้เข้าถึงไมโครโฟนและกล้อง

2. แก้ไขสิทธิ์สำหรับระบบปฏิบัติการ:

   • macOS: เลือกที่เมนู Apple  > การตั้งค่าระบบ > คลิกความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว > เลือกความเป็นส่วนตัว > เลือกกล้อง > คลิกเลือกช่องที่อยู่ถัดจาก Signal ทั้งนี้ ต้องรีสตาร์ท Signal เพื่อรองรับการตั้งค่านี้
   • macOS: เลือกที่เมนู Apple  > การตั้งค่าระบบ > คลิกความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว > เลือกความเป็นส่วนตัว > เลือกแชร์หน้าจอ > คลิกเลือกช่องที่อยู่ถัดจาก Signal ทั้งนี้ ต้องรีสตาร์ท Signal เพื่อรองรับการตั้งค่านี้

ตรวจสอบการตั้งค่าอื่นๆ ของระบบปฏิบัติการ:

• • macOS: หากต้องการใช้ iPhone เป็นกล้องเว็บแคม ให้เลือกที่เมนู Apple  > การตั้งค่าระบบ > ทั่วไป > AirPlay และ Handoff แล้วตรวจสอบว่าอนุญาตเรียบร้อยแล้ว
  • Windows: ตรวจสอบการตั้งค่าระดับเสียง
    1. ปิด Signal เดสก์ท็อป
    2. เปิดแอปการตั้งค่า > เสียง > การตั้งค่าเสียงเพิ่มเติม > การสื่อสาร
    3. เลือก "ไม่ต้องทำอะไร" แล้วคลิกใช้งาน 
    4. เปิด Signal เดสก์ท็อป ลองโทรออกแล้วทดสอบว่าระดับเสียงดีขึ้นหรือไม่
  • Windows: หากคุณกำหนดการควบคุม “กิจกรรมการสื่อสาร” เป็น “ไม่ต้องทำอะไร” ตามที่ระบุไว้ด้านบนแล้ว แต่ยังคงประสบปัญหาอยู่ ให้ลองทำตามขั้นตอนดังนี้
    1. เปิดแอปการตั้งค่า > ระบบ > เสียง > ลำโพง แล้วลองปิดใช้งานการตั้งค่า “การเพิ่มประสิทธิภาพ” / “เพิ่มประสิทธิภาพเสียง” สำหรับอุปกรณ์เอาต์พุต  
    2. เปิดแอปการตั้งค่า > ระบบ > เสียง > ลำโพง แล้วตรวจสอบว่าไดรเวอร์เสียงของคุณเป็นรุ่นล่าสุดแล้ว เนื่องจากข้อบกพร่องจากผู้ผลิตบางรายสามารถแก้ไขได้ผ่านการอัปเดต